คนส่วนใหญ่น่าจะคุ้นหูกับชื่อรัฐหลายๆ ชื่อของสหรัฐอเมริกา
แต่ทราบไหมว่าทั้ง 50 รัฐ นี้ก็มี “ชื่อเล่น” กับเขาเหมือนกัน เราไปดูกันดีกว่าครับว่าแต่ละรัฐนั้นมีชื่อเล่นหรือฉายาอะไรกันบ้าง
เรียงตามลำดับ A-Z โลด
1.อลาบามา (Alabama) ถูกขนานนามว่า
“มลรัฐแห่งนกเยลโลว์แฮมเมอร์” (The Yallowhammer State) ซึ่งเจ้านก Yallohammer คือนกชนิดหนึ่งตัวเล็ก
หัว คอ และอกมีสีเหลือง นกชนิดนี้เป็นสัญลักษณ์ของรัฐอลาบามา จึงถูกนำมาตั้งเป็นชื่อเล่นของรัฐนี้
2.อลาสกา (Alaska) มีสองชื่อเล่นคือ
“พรมแดนสุดท้าย” (The
Last Frontier) และ “ดินแดนแห่งพระอาทิตย์เที่ยงคืน” (Land of the Midnight Sun) เพราะเป็นมลรัฐที่ใหญ่ที่สุด
และอยู่ห่างไกลแผ่นดินใหญ่ที่สุดทางทิศเหนือ ติดพรมแดนประเทศแคนาดา รัสเซียขายให้อเมริกา
3.อริโซนา (Arizona) ได้รับการตั้งชื่ออย่างไม่เป็นทางการว่า
“มลรัฐแห่งแกรนด์แคนยอน” (Grand
Canyon State) เนื่องจาก Grand Canyon เป็นแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติ
มีอาณาบริเวณกว้างใหญ่ไพศาลอันประกอบด้วยหุบเขาสูง และลึก ชั้นหินสูงละลิ่ว และมีแม่น้ำ
Colorado ไหลผ่าน ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็น
The Must ของบรรดานักเดินทางที่มาเยือนทีเดียว ทำให้กลายเป็นสัญลักษณ์และชื่อเล่นของมลรัฐนี้ไปโดยปริยาย
4.อาร์แคนซอส์ (Arkansas) เป็นรัฐที่ถูกขนานนามอย่างไม่เป็นทางการว่า
“มลรัฐแห่งธรรมชาติ” (The
natural State) เพราะประกอบด้วยป่าไม้ ไร่อ้อย ฝ้าย ข้าว และถั่วเหลืองอันอุดมสมบูรณ์
5.แคลิฟอร์เนีย (California) รัฐที่ชื่อคุ้นหูนี้ถูกเรียกเล่นๆ
ว่า “มลรัฐแห่งทองคำ”
(Golden State) เนื่องจากในศตวรรษที่ 19 มีการตื่นทอง (The
Gold Rush) เกิดขึ้นในมลรัฐนี้จนเกิดคำพูดว่า “Go
West Young Man” (ถ้าอยากรวย หรืออยากสาบสูญก็ต้องไปขุดทองทางตะวันตกของประเทศ)
นอกจากนี้สัญลักษณ์ของมลรัฐนี้คือสะพานแขวน GoldenGate ในเมือง
San Francisco และ Hollywood เมืองอุตสหกรรมภาพยนตร์นั่นเอง
6.โคโลราโด (Colorado) “มลรัฐเฉลิมฉลองหนึ่งศตวรรษ” (Centennial State) มีแหล่งท่องเที่ยวที่มีภูมิประเทศงดงาม
เช่นวนอุทยานเทือกเขาร๊อกกี้ และสถานที่เล่นสกีอันเลื่องลือ
7.คอนเนกติกัต (Connecticut) เป็นอีกรัฐที่มีสองชื่อเล่นคือ
“มลรัฐแห่งรัฐธรรมนูญ” (The
Constitution State) และ “มลรัฐแห่งผลจันทน์เทศ” (Nutmeg State) nutmeg เป็นเครื่องเทศชนิดหนึ่ง คือผลจันทร์เทศ
นอกจากนี้มหาวิทยาลัยเยล (Yale University) ก็อยู่ในมลรัฐนี้
8.เดลาแวร์ (Delaware) มีสามชื่อเล่นคือ
“มลรัฐแห่งเพชร”
(Diamond State) “มลรัฐหมายเลขหนึ่ง” (First
State) และ “โลกมหัศจรรย์ใบน้อย” (Small Wonder)
9.ฟลอริดา (Florida) “มลรัฐแห่งตะวัน” (Sunshine State) เพราะเป็นมลรัฐที่มีลักษณะเป็นแหลมยื่นลงไปในทะเล
มีแสงแดดอบอุ่นตลอดทั้งปี มีแหล่งท่องเที่ยวระดับโลกคือ DisneyWorld และชายหาด
Miami อันสวยงาม มีฐานปล่อยจรวดด้วยนะ
10.จอร์เจีย (Georgia) มีสองชื่อเล่นคือ
“มลรัฐแห่งลูกพีช” (Peach
State) และ “เอ็มไพร์สเตทแห่งภาคใต้” (Empire State of The South) เพราะมีการปลูกต้นพีชมาก
เมืองหลวงคือ Atlanta และเป็นรัฐที่มีตึกสูงๆ ทันสมัยไม่น้อยหน้านิวยอร์ก
11.ฮาวาย (Hawaii) มีชื่อเรียกกันเล่นๆ
ว่า “อโลฮาฮาวายอิ” (Aloha
Hawaii) เป็นมลรัฐที่ห้าสิบของประเทศคำว่า “อโลฮา” เป็นคำทักทายของชาวพื้นเมืองของหมู่เกาะชาวฮาวายอิ
จึงเป็นสัญลักษณ์และชื่อเล่นของมลรัฐ Hawaii
12.ไอดาโฮ (Idaho) “มลรัฐแห่งอัญมณี” (Gem) มีการทำเหมืองแร่และป่าไม้
13.อิลลินอยส์ (Illinois) ถูกเรียกขานว่า
“มลรัฐที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทุ่งหญ้า” (Prairie State) แค่ฟังชื่อก็น่าจะทราบลักษณะภูมิประเทศ มีเมืองสำคัญคือชิคาโก
14.อินเดียนา (Indiana) “มลรัฐแห่งทีมบาสเกตบอลฮูเซียร์” (Hoosier State) Hoosier เป็นชื่อทีมบาสเกตบอลชื่อเสียงขจรขจาย จึงเป็นความภาคภูมิใจแห่งชาวมลรัฐ
Indiana
15.ไอโอวา (Iowa) “มลรัฐแห่งตาเหยี่ยว” (Hawkeye State) เหยี่ยวเป็นสัตว์ที่ว่องไวบินสูง และมีตาแหลมคม
มลรัฐนี้มีการเกษตรกรรม เช่น การทำฟาร์ม และปศุสัตว์
16.แคนซัส (Kansas) มีสองชื่อเล่นคือ
“มลรัฐแห่งดอกทานตะวัน”
(Sunflower State) และ “มลรัฐกลุ่มผู้ต้องการล้มเลิกระบบทาส” (Jayhawk State) เนื่องจากชื่อ jayhawk เป็นชื่อของกลุ่มหัวรุนแรงในมลรัฐ
Kansas ในสมัยสงครามกลางเมือง
17.เคนตักกี (Kentucky) “มลรัฐแห่งดนตรีเครื่องสาย” (Bluegrass State) ที่ได้ชื่อนี้ก็เพราะรัฐนี้เป็นรัฐที่ทำแบนโจ
และกีตาร์ที่ดีมากๆ รัฐหนึ่ง Kentucky ยังมีชื่อเสียงเรื่องการเลี้ยงม้าแข่งพันธุ์ดีที่สุดของโลก
18.หลุยเซียนา (Louisiana) “มลรัฐแห่งนกกระทุง” (PelicanState) นกกระทุงเป็นนกขนาดใหญ่กินปลาคอพอกเมืองNewOrleansในมลรัฐLouisianaเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญเพราะมีบรรยากาศฝรั่งเศสและเทศกาลMardiGras
19.เมน (Maine) มีชื่อเล่นว่า
“มลรัฐแห่งต้นสน” (Pine
Tree State) ต้นสนมีใบแหลมมีรูปเป็นกรวยที่ใดมีป่าสนที่นั่น
อากาศดีเพราะต้นสนให้ออกซิเจน มลรัฐนี้มีภูมิประเทศเป็นภูเขาและทะเลสาบ
20.แมรีแลนด์ (Maryland) มีสองชื่อเล่นคือ
“มลรัฐแห่งเสรีภาพ” (Free
State) และ “มลรัฐแห่งสายเก่า”
(Oldline State)
21.แมสสาซูเสตส์ (Massachusetts) มีสองชื่อเล่นคือ
“มลรัฐแห่งอ่าวทะเล” (Bay
State) และ “มลรัฐแห่งอาณานิคมเก่าแก่” (Old Colony State) เป็นหนึ่งใน 13 รัฐแรก และมีประวัติศาสตร์เป็นศูนย์กลางของปัญญาชนและนักศึกษา
22.มิชิแกน (Michigan) เป็นรัฐที่ถูกเรียกอีกชื่อว่า
“มลรัฐแห่งวูฟเวอรีน”
(Wolverine State) วูฟเวอรีน (Wolverine) เป็นสัตว์ในเขตหนาวจำพวกสุนัขจิ้งจอก
คล้ายแมว เลี้ยงลูกด้วยนม มีขนยาวสีดำ Michigan ล้อมรอบด้วยทะเลสาบถึงสี่ทะเลสาบ
และเป็นรัฐอันดับหนึ่งที่ผลิตรถยนต์ และอุตสาหกรรมการผลิตเหล็ก โดยมีเมือง Detroit
เป็นเมืองอุตสาหกรรมสำคัญ
23.มินเนโซตา (Minnesota) มีสามชื่อเล่นคือ
“มลรัฐแห่งดาวเหนือ” (North
Star State) “มลรัฐแห่งกระรอกโกเฟอร์”
(Gopher State) และ “ดินแดนแห่ง 10,000 ทะเลสาบ” (Land of 10,000 Lakes)
24.มิสซิสซิปปี (Mississippi) มีชื่อเล่นว่า
“มลรัฐแห่งดอกแมกโนเลีย”
(Magnolia State) แมกโนเลีย (Magnolia) เป็นพันธุ์ไม้ชนิดหนึ่งจำพวกดอกมณฑา
มีดอกสีขาวชมพูม่วง และเหลือง Mississippi ยังเป็นรัฐที่มีการปลูกฝ้ายมากที่สุดในประเทศ
25.มิสซูรี (Missouri) ชื่อเล่นของมลรัฐนี้ออกจะแปลกสักหน่อย
เพราะมันถูกเรียกว่า “มลรัฐที่มีสิ่งให้ชมมากมาย” (Show-me State) มลรัฐนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์
เช่น Hannibal เป็นบ้านเกิดเมืองนอนของนักประพันธ์เอก Mark
Twain และพิพิธภัณฑ์ Jesse James
26.มอนตานา (Montana) “มลรัฐแห่งสมบัติล้ำค่า” (Treasure State) สิ่งที่มีค่าของมลรัฐนี้คือ
การเกษตรการล่าสัตว์ และการเลี้ยงสัตว์
27.เนบราสกา (Nebraska) มีสองชื่อเล่นคือ
“มลรัฐแห่งผู้แกะข้าวโพด”
(Cornhusker State) และ “มลรัฐแห่งเนื้อวัว” (Beef State) ทั้งสองชื่อนี้แสดงว่ามลรัฐนี้อุดมสมบูรณ์ไปด้วยข้าวโพดและวัว
และยังมีอุตสาหกรรมบรรจุเนื้อสัตว์ในเมืองใหญ่ๆ อีกด้วย
28.เนวาดา (Nevada) มีสามชื่อเล่นคือ
“มลรัฐแห่งพันธุ์ไม้ละเมาะ” (Sage
brush State) “มลรัฐที่อุดมสมบูรณ์ด้วยแร่เงิน” (Silver State) และ “มลรัฐที่เกิดมาเพื่อการรบ” (Battle Born State) มลรัฐนี้มีคาสิโนที่ใหญ่ที่สุดในโลกและศูนย์กลางบันเทิงชั้นแนวหน้าของโลกอยู่ใน
Las Vegas
29.นิวแฮมเซียร์ (NewHampshire) “มลรัฐที่อุดมสมบูรณ์ด้วยหินแกรนิต” (Granite State) NewHampshire เป็นรัฐที่มีทัศนียภาพงดงาม
และแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมาก
30.นิวเจอร์ซี (NewJersey) ถูกเรียกอีกชื่อว่า
“มลรัฐที่อุดมสมบูรณ์ด้วยพันธุ์ไม้” (Garden State) มลรัฐนี้มีสถานที่ตากอากาศตามแนวชายฝั่ง
และมีสถานคาสิโนที่ถูกต้องตามกฎหมาย
31.นิวแม็กซิโก (New Mexico) มีชื่อเล่นว่า
“ดินแดนแห่งมนต์ขลัง” (Land
of Emchantment) ชื่อทางการของมลรัฐนี้ตั้งตามประเทศแม็กซิโกที่อยู่ติดกัน
32.นิวยอร์ก (New York) รัฐที่หลายคนใฝ่ฝันอยากไปเยือนแห่งนี้มีชื่อเล่นว่า
“มลรัฐแห่งตึกระฟ้าเอ็มไพร์สเตท” (Empire State) ซึ่งเป็นตึกระฟ้าที่สูงที่สุดในสหรัฐอเมริกา
จึงเป็นสัญลักษณ์และอีกชื่อเล่นของมลรัฐนี้ “แอปเปิลผลใหญ่” (The Big Apple) คืออีกฉายาหนึ่งที่ใช้เรียกรัฐนี้อย่างไม่เป็นทางการ
แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของมลรัฐนี้คือน้ำตกไนแอการา (Niagara Falls)
33.นอร์ธแคโรไลนา (North Carolina) ถูกเรียกตามทรัพยากรที่มีว่า
“มลรัฐแห่งน้ำมันดิบ” (Tar
Heel State) NorthCarolina เป็นบ้านเกิดเมืองนอนของ CarlSandburg นักประพันธ์ร่วมสมัยในศตวรรษที่
20
34.นอร์ธดาโกตา (North Dokota) เป็นรัฐที่ร่ำรวยชื่อเล่นครับเพราะมีถึงสี่ชื่อเล่นคือ
“มลรัฐแห่งอินเดียนแดงเผ่าเซอุ๊กซ์” (Sioux State) “มลรัฐแห่งนกฟลิกเคอร์เทล” (Flickertail State) “มลรัฐแห่งอุทยานสันติภาพ” (Peace Garden State) และ “มลรัฐแห่งผู้ขับขี่ทรหด” (Rough Rider State)
35.โอไฮโอ (Ohio) ถูกตั้งชื่อว่า
“มลรัฐแห่งตาไม้” (The
Buckeye State) buckeye คือบริเวณใจกลางของเนื้อไม้ซุง หรือตาไม้ซุงลักษณะเป็นวงเล็กๆ
ที่ซ้อนด้วยวงใหญ่ๆ Ohio เป็นบ้านเกิดเมืองนอนของประธานาธิบดีถึงห้าท่าน
มีเมือง Youngstown เป็นเมืองสำคัญด้านอุตสาหกรรมเหล็ก
36.โอกลาโฮมา (Oklahoma) มีชื่อเล่นว่า
“มลรัฐแห่งอนาคตอันใกล้” (Sooner
State) ในอดีตมลรัฐนี้เป็นดินแดนอยู่ห่างไกลความเจริญ
(The Wilderness) และเป็นถิ่นฐานของอินเดียนแดง
37.ออเรกอน (Oregon) เป็นรัฐที่ถูกเรียกเล่นๆ
ว่า “มลรัฐแห่งตัวบีเวอร์”
(BeaverState) beaver เป็นสัตว์ชนิดหนึ่งจำพวกหนูคล้ายนากกินปลา ขนาดเท่าแมว
ฟันคมสามารถกัดต้นไม้ใหญ่ๆ ให้ล้มได้ หนังมีขนละเอียดใช้ทำเครื่องกันหนาว อาศัยอยู่ในน้ำ
Oregon มีอุตสาหกรรมจับปลาแซลมอนที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
38.เพนซิลเวเนีย (Pennsylvania) ถูกเรียกว่า
“มลรัฐที่เป็นหลักสำคัญ”
(Keystone State) Keystone คือหินก้อนที่อยู่บนสุดตรงกลางของยอดโค้งหรือหลังคาโค้ง
ทำหน้าที่ยึดหินก้อนอื่นๆ มิให้คลาดเคลื่อนหรือหลุดจากกัน ดังเช่น Pennsylvania
ซึ่งเป็นมลรัฐที่มีบทบาทสำคัญในการก่อตั้งประเทศ
39.โรดไอส์แลนด์ (RhodeIsland) มีอีกชื่อว่า
“มลรัฐแห่งมหาสมุทร”
(OceanState) เนื่องจากตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกติดมหาสมุทรแอตแลนติก
40.เซาธ์แคโรไลนา (SouthCarolina) ถูกเรียกว่า
“มลรัฐแห่งต้นปาล์มรูปใบพัด” (Palmetto) South Carolina เป็นสมรภูมรบสำคัญทางประวัติศาสตร์ในสมัยสงครามกลางเมือง
41.เซาธ์ดาโกตา (SouthDakota) มีสองชื่อเล่น
“มลรัฐแห่งภูเขารัชมอร์” (Mount
Rushmore Sate) และ “มลรัฐแห่งไคโอเต้”
(Coyote State) เป็นภูเขา RushMore ที่ด้านหนึ่งแกะสลักเป็นรูปใบหน้าของประธานาธิบดีสี่ท่าน
ได้แก่ George Washington ,ThomasJefferson, Abraham Lincoln และ
Theodore Roosevelt ส่วน coyote เป็นหมาป่าตัวเล็กอาศัยอยู่ภาคตะวันตกของอเมริกา
42.เทนเนสซี (Tennessee) คือ
“มลรัฐแห่งอาสาสมัคร”
(Volunteer State) แหล่งท่องเที่ยวสำคัญคือเมือง Memphis บ้านเกิดเมืองนอนของ
ElvisPresley นักร้องในศตวรรษ1960
43.เท็กซัส (Taxas) ถูกเรียกว่า
“มลรัฐแห่งดาวดวงเด่น”
(LoneStar State)เพราะมลรัฐนี้มีธงประจำรัฐเป็นรูปดาวดวงเดียวโดดเด่น
เอกลักษณ์อีกอย่างของมลรัฐนี้คือการขี่ม้าผาดโผนที่เรียกว่า Rodeocowboy เมืองสำคัญคือ
Houston ซึ่งเป็นฐานปล่อยจรวดและศูนย์ฝึกมนุษย์อวกาศ
44.ยูทาร์ (Utah) มีชื่อเล่นว่า
“มลรัฐแห่งรังผึ้ง”
(Beehive State) เมือง SaltLakeCity ในรัฐ
Utah เคยเป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวในค.ศ.2002
45.เวอร์มอนต์ (Vermont) ถูกตั้งชื่อจากการถอดความชื่อมลรัฐที่เป็นภาษาฝรั่งเศสออกมาเป็นภาษาอังกฤษ
Vert ในภาษาฝรั่งเศสแปลว่าเขียว และ Mont ในภาษาฝรั่งเศสแปลว่าภูเขา
มันจึงถูกตั้งชื่อเล่นว่า “มลรัฐแห่งภูเขาสีเขียว” (GreenMountain State) นักท่องเที่ยวนิยมเล่นสกีและตกปลาตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ
ของมลรัฐนี้
46.เวอร์จิเนีย (Virginia) มีสองชื่อเล่นคือ
“มลรัฐที่การปกครองอย่างเก่า” (The Old Dominion) และ “เมืองมารดรแห่งประธานาธิบดี” (Mother of Presidents) เพราะเป็นบ้านเกิดเมืองนอนของประธานาธิบดีสามท่าน
โดยเฉพาะประธานาธิบดีท่านแรกของอเมริกา George Washington และมีเมือง
Jamestown เป็นเมืองประวัติศาสตร์เพราะเป็นเมืองแรกที่มีคนผิวขาวอพยพเข้ามาตั้งรกรากและเป็นเมืองแรกที่มีทาสผิวดำ
47.วอชิงตัน (Washington) ถูกเรียกว่า
“มลรัฐที่เขียวชอุ่มตลอดปี”
(Evergreen State) มีเมืองสำคัญคือ Seattle ซึ่งเป็นศูนย์วิทยาศาสตร์อากาศ
48.เวอร์จิเนียตะวันตก (WestVirginia) มีชื่อเล่นตามภูมิประเทศว่า
“มลรัฐแห่งภูเขา”เพราะพื้นที่เต็มไปด้วยภูเขาสูงๆ
ต่ำๆ นอกจากนี้ยังมีอุทยานแห่งชาติป่าไม้ และบริเวณสันทนาการมากมาย
49.วิสคอนซิน (Wisconcin) มีสองชื่อเล่นคือ
“มลรัฐแห่งแบดเจอร์”
(Badger State) และ “มลรัฐแห่งนมเนย” (Dairy
State) badger คือสัตว์ชนิดหนึ่งขนาดเท่าสุนัขจิ้งจอก เท้ามีเล็บอย่างหมีและมลรัฐนี้ยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยนมเนย
50.ไวโอมิง (Wyoming) “มลรัฐแห่งความเสมอภาค” (Equality State) สัญลักษณ์คือวนอุทยาน Yellowstone
ซึ่งเป็นวนอุทยาน แห่งชาติแห่งแรกของประเทศสหรัฐอเมริกา
ขอขอบคุณข้อมูลจาก travel.truelife.com
เเผนที่เเคนาดานะ
ครูเเบงค์เองก็มีอีกเวอร์ชั่นหนึ่งนะ
ประเทศเเคนาดา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น