วันอาทิตย์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

ม 2 วัฒนธรรมของไทยกับประเทศในภูมิภาคเอเชีย



1. ความคล้ายคลึงและความแตกต่างทางวัฒนธรรมของไทยกับประเทศในภูมิภาคเอเชีย

วัฒนธรรม
          เป็นการกระทำของมนุษย์และถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งวัฒนธรรมในแต่ละภูมิภาคมีความต่างกันและคล้ายกัน ดังนี้

          วัฒนธรรมไทย มีลักษณะที่สำคัญ ๆ ดังนี้
                    วัฒนธรรมด้านการแต่งกาย การแต่งกายไทยจะเปลี่ยนแปลงไปให้เหมาะกับยุคสมัย ซึ่งปัจจุบันไทยแต่งกายแบบตะวันตก แต่ได้มีการนำชุดไทยมาปรับปรุงให้เหมาะกับยุคสมัย จนได้ชุดแต่งกายประจำชาติของสตรีไทย เรียกว่า ชุดไทยพระราชนิยม ส่วนชุดประจำชาติของชายไทย เรียกว่า ชุดไทยพระราชทาน


                                        

                    วัฒนธรรมด้านภาษา ภาษาไทยแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ
                              ภาษากลาง หรือภาษาราชการ
                              ภาษาถิ่น เป็นการพูดของคนแต่ละท้องถิ่น แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่
                                        – ภาษาถิ่นภาคเหนือ (ภาษาล้านนา) พูดกันเฉพาะคนที่อาศัยอยู่บริเวณภาคเหนือ
                                        – ภาษาถิ่นภาคกลาง (ภาษาถิ่นกลาง) พูดกันเฉพาะคนที่อาศัยในภาคกลาง
                                        – ภาษาถิ่นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ภาษาอีสาน) พูดกันเฉพาะคนที่อาศัยอยู่ในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
                                        – ภาษาถิ่นภาคใต้ (ภาษาปักษ์ใต้) พูดกันเฉพาะคนที่อาศัยอยู่ในบริเวณภาคใต้
                    วัฒนธรรมด้านความเชื่อ แยกเป็นด้านต่าง ๆ ได้ดังนี้
                              – ความเชื่อเรื่องผีสางเทวดา จะแฝงอยู่ในรูปของขนบธรรมเนียมประเพณีและความเชื่อเกี่ยวกับสิ่งศักสิทธิ์
                              – การนับถือบรรพบุรุษ
                              – ความเชื่อเกี่ยวกับการเกษตร
                              – ความเชื่อเรื่องโลก จักรวาล และกำเนิดคนและสัตว์
                              – ความเชื่อเรื่องโชคลาง
                              – การนับถือพระพุทธศาสนา และ ยังนับถือศาสนาอื่น ๆ โดยเฉพาะศาสนาพราหมณ์ฮินดู ได้นำมาผสมกับความเชื่อทางพระพุทธศาสนา

                    วัฒนธรรมด้านอาหาร อาหารไทยมีคุณค่าทางอาหารครบถ้วนและมีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ ส่วนใหญ่มีรสจัด ซึ่งในแต่ละภูมิภาคจะมีอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ แบ่งเป็น 4 ภูมิภาค ดังนี้
                               – ภาคเหนือ มักทานอาหารรสชาติกลาง ๆ รสเค็มนำเล็กน้อย ไม่ทานรสเปรี้ยวและหวาน โดยทานข้าวเหนียวคู่กับน้ำพริก และมีแกงหลายชนิด
                               – ภาคกลาง มักทานอาหารรสกลมกล่อม หวานนำเล็กน้อย โดยทานข้าวสวยคู่กับอาหารต่าง ๆ
                               – ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มักทานอาหารรสจัด โดยทานข้าวเหนียวคู่กับอาหารต่าง ๆ
                               – ภาคใต้ มักทานอาหารรสเผ็ด โดยทานข้าวสวยคู่กับอาหารต่าง ๆ และผักสดพื้นเมือง





          วัฒนธรรมญี่ปุ่น
                    วัฒนธรรมด้านการแต่งกาย ชุดประจำชาติของชาวญี่ปุ่น คือ กิโมโน แต่ในปัจจุบันจะใส่ชุดกิโมโนในงานพิธี ซึ่งเหมือนกับประเทศไทยที่มักแต่งกายตามสมัยนิยมแบบตะวันตก แต่ใส่ชุดประจำชาติในงานสำคัญเท่านั้น



                 

 วัฒนธรรมด้านภาษา ภาษาญี่ปุ่นรับอิทธิพลมาจากภาษาจีน ซึ่งภาษาญี่ปุ่นมีสำเนียงท้องถิ่นเหมือนภาษาไทยแต่ต่างจากภาษาไทยตรงที่ภาษาญี่ปุ่นมักจะละคำ โดยละประธานหรือกรรมของประโยคที่รู้อยู่แล้ว และใช้ประโยคสั้น โดยเฉพาะการพูด แต่คล้ายกับภาษาไทยที่มีสรรพนาม ซึ่งคำสรรพนามในภาษาญี่ปุ่นมีลักษณะคล้ายคำนาม ขยายคำนามได้ ต่างจากภาษาในกลุ่มอิโดยูโรเปียนที่ทำไม่ได้ และภาษาญี่ปุ่นยังใช้คำสุภาพเหมือนกับภาษาไทย ต่างกันที่ชาวญี่ปุ่นจะใช้คำสุภาพกับคนที่พึ่งรู้จัก แต่เมื่อสนิทสนมกันแล้วจะไม่ใช้คำสุภาพ
                    วัฒนธรรมด้านความเชื่อ มีอิทธิพลมาจากศาสนาชินโต และนับถือพระพุทธศาสนาควบคู่ด้วย สรุปได้ดังนี้
                              – ศาสนาชินโต เป็นศาสนาหลักของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นศาสนาที่นับถือเทพเจ้าและเทวดา ให้ความสำคัญกับการอาบน้ำและทำความสะอาดร่างกาย เพราะศาสนาชินโตสอนในเรื่องความบริสุทธิ์ ชาวญี่ปุ่นจะมาที่ศาลเจ้าเพื่อแสดงความเคารพวิญญาณ และสวดมนต์เพื่อให้มีโชคดี
                              – พระพุทธศาสนา แยกเป็นหลายนิกาย ได้แก่ นิกายดินแดนบริสุทธิ์ (Pure Land) และนิกายเซ็น (Zen) และได้เกิดนิกายนิชิเร็น (Nichiren) ตามมา พระพุทธศาสนานิกายดินแดนบริสุทธิ์เป็นกลุ่มใหญ่ที่สุดในปัจจุบัน ส่วนนิกายเซ็นเป็นที่รู้จักมากที่สุดของชาวตะวันตก
                    การนับถือพระพุทธศาสนาเป็นหลัก มีการนับถือเทพยดาเหมือนกัน ต่างกันตรงที่คนญี่ปุ่นนับถือศาสนาชินโตควบคู่ด้วย และนับถือนิกายต่างจากคนไทย จึงมีวิธีปฏิบัติต่างกัน
                    วัฒนธรรมด้านอาหาร อาหารไทยและอาหารญี่ปุ่นมีการตกแต่งอาหารให้สวยงามเหมือนกัน แต่ต่างกันที่ญี่ปุ่นจะเน้นการจัดวาง แต่ไทยเน้นการแกะสลัก นอกจากนี้คนญี่ปุ่นนิยมใช้ตะเกียบทานอาหาร ส่วนชาวไทยนิยมใช้ช้อนและส้อม



          วัฒนธรรมเกาหลี
                    วัฒนธรรมด้านการแต่งกาย เครื่องแต่งกายประจำชาติ คือ ฮันบก โดยปัจจุบันจะสวมใส่ชุดประจำชาติในงานสำคัญ และแต่งกายตามสมัยนิยม เหมือนวัฒนธรรมการแต่งกายของไทย แต่ต่างจากไทยตรงที่มีสีสันที่ฉูดฉาด และกำหนดสีของชุดตามวัยและสถานะของผู้สวมใส่




                    วัฒนธรรมด้านภาษา
                              ภาษาเกาหลีมีสำเนียงท้องถิ่นเหมือนกับภาษาไทย แต่ต่างกัน เช่น ภาษาไทยมีสระเสียงสั้นและเสียงยาวแยกกัน แต่ภาษาเกาหลีมีตัวเดียว อยู่ที่การเน้นเสียง แม้จะเขียนเหมือนกันแต่ก็อ่านต่างกัน และประโยคในภาษาเกาหลีจะวางโดยเรียงลำดับต่างจากภาษาไทย
                    วัฒนธรรมด้านความเชื่อ เกาหลีมีทั้งผู้ที่นับถือพุทธศาสนา คริสต์ศาสนา ลัทธิขงจื๊อ ลัทธิทรงเจ้า บูชาผี รวมทั้งศาสนาย่อย ๆ ที่เกิดขึ้นจากการผสมผสานหลักศาสนาดั้งเดิมกับแนวคิดใหม่ และเคารพผู้อาวุโส เคารพบูชาบรรพบุรุษพระพุทธศาสนาได้เผยแผ่อย่างรวดเร็ว จนปัจจุบันคณะสงฆ์ในเกาหลีใต้ เป็นคณะสงฆ์ที่มีความก้าวหน้ามากที่สุด โดยวัฒนธรรมความเชื่อของเกาหลีนับถือพระพุทธศาสนา และเคารพผู้อาวุโสคล้ายกับวัฒนธรรมไทย แต่ต่างกันที่ อิทธิพลขงจื๊อที่มีอยู่มากในวัฒนธรรมความเชื่อของเกาหลีแต่ไม่ปรากฏมากนักในวัฒนธรรมไทย

                    วัฒนธรรมด้านอาหาร คนเกาหลีทานข้าวเป็นอาหารหลักควบคู่กับอาหารต่าง ๆ เหมือนคนไทย ซึ่งอาหารเกาหลีเป็นอาหารที่มีหลากหลายรสชาติ และมีรสชาติอร่อย ซึ่งอาหารเกาหลีมีประโยชน์ต่อร่างกาย และเชื่อว่าอาหารคือยาเหมือนกับไทย ต่างกันที่ อาหารเกาหลีจะเน้นในเรื่องของผักดองที่เรียกว่า กิมจิ แต่อาหารไทยจะรับประทานผักสด



          วัฒนธรรมจีน
                    วัฒนธรรมด้านการแต่งกาย เครื่องแต่งกายของสตรี คือ กี่เพ้า ชาวจีนแต่ละพื้นที่แต่งกายต่างกัน วัฒนธรรมการแต่งกายของชาวจีนคล้ายไทยที่ได้รับอิทธิพลตะวันตกเป็นส่วนใหญ่ และผสมผสานกับชุดแต่งกายเดิม แต่ต่างกันที่ ชุดแต่งกายชาวจีนเป็นชุดคลุมยาวทั้งตัว แต่ชุดไทยแยกเป็นเสื้อและผ้าซิ่น


                    วัฒนธรรมด้านภาษา มีภาษาจีนกลางเป็นภาษาหลัก โดยวัฒนธรรมด้านภาษาของจีนมีการใช้ภาษาถิ่นเหมือนกับไทย ต่างกันที่ตัวอักษรภาษาจีนมีความหมายอยู่ในตัวอักษร จึงไม่มีรูปสระหรือวรรณยุกต์ แต่ภาษาไทยต้องประสมคำระหว่างตัวอักษร สระ และวรรณยุกต์ จึงเกิดคำที่มีความหมาย
                    วัฒนธรรมด้านความเชื่อ ประเทศจีนเป็นต้นกำเนิดของลัทธิ 2 ลัทธิ ได้แก่ ลัทธิเต๋า และลัทธิขงจื๊อ และพระพุทธศาสนาแผ่ขยายไปในหมู่ชาวจีนอย่างมั่นคง ชาวจีนเคารพและบูชาบรรพบุรุษ มีฮวงจุ้ยเป็นศาสตร์ที่ใช้ในการทำนาย โดยวัฒนธรรมด้านความเชื่อจีนคล้ายกับไทยหลายประการ เช่น นับถือพระพุทธศาสนา เคารพนับถือบูชาบรรพบุรุษ กตัญญูกตเวที เชื่อเรื่องเทพเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เรื่องโชคลาง ยึดมั่นในขนบธรรมเนียมประเพณี แต่ต่างจากไทยตรงที่นับถือลัทธิเต๋าและลัทธิขงจื๊อ ซึ่งคนไทยยังนับถือไม่มากนัก
                    วัฒนธรรมด้านอาหาร คนจีนทานข้าวเป็นอาหารหลักควบคู่กับอาหารอื่น อาหารจีนมีประโยชน์ต่อร่างกาย และในแต่ละภูมิภาคของจีนมีอาหารพื้นเมืองต่างกันเหมือนอาหารไทย อาหารในภูมิภาคต่างๆ ของจีน ได้แก่
                              – อาหารซันตง เป็นอาหารพื้นเมืองของทางภาคเหนือในแถบเป่ยจิงกับซันตง ปรุงด้วยวิธีการเคี่ยวน้ำซุป รสชาติจะนุ่มนวล ไม่เผ็ด เค็ม หวาน หรือขมจัด
                              – อาหารเจียงซู เป็นอาหารในแถบซางไห่ เจียงซู กับเจ๋อเจียงทางภาคตะวันออก ปรุงด้วยวิธีการต้ม นึ่ง หรือตุ๋น รสชาติจะมัน เลี่ยน และเค็มเล็กน้อย ส่วนใหญ่เป็นอาหารทะเล
                              – อาหารกวางตุ้ง เป็นอาหารของมณฑลกวางตุ้งทางภาคใต้ ปรุงด้วยวิธีการต้ม ย่าง เคี่ยว และอบ รสชาติจะจืดและหวานเล็กน้อย และเน้นการตกแต่งอาหาร
                              – อาหารเสฉวน เป็นอาหารทางภาคตะวันตกในแถบเมืองเฉินตู ปรุงด้วยวิธีการนึ่งและทอด และใส่เครื่องเทศที่มีรสเผ็ดในอาหาร รสชาติมีรสจัดและเค็ม





          วัฒนธรรมอินเดีย
                    วัฒนธรรมด้านการแต่งกาย ชาวอินเดียนิยมแต่งกายโดยใช้ผ้านุ่งห่มเพื่อเป็นเครื่องปกปิดร่างกาย ชุดแต่งกายประจำชาติ คือ ส่าหรี โดยสมัยโบราณชาวอินเดียแต่งกายคล้ายคนไทยสมัยเชียงแสน ต่อมาชาวอินเดียแต่งกายหลายชั้น และผู้ชายโพกผ้าที่ศีรษะ ต่างกับการแต่งกายไทยที่นิยมนุ่งผ้าซิ่น และสวมเสื้ออย่างเดียวไม่มีคลุม และผู้ชายไทยไม่โพกผ้า



                     วัฒนธรรมด้านภาษา ในประเทศอินเดียมีภาษาที่ใช้เป็นทางการจำนวน 18 ภาษา ซึ่งภาษาที่ใช้กันมาก คือ ภาษาฮินดี ภาษาของอินเดียคล้ายกับภาษาไทยคือ ภาษาบาลีและภาษาสันสกฤต เมื่อทั้ง 2 ศาสนานี้เผยแผ่มาสู่ไทย ทำให้ไทยรับภาษาทั้งสองเข้ามา นอกจากนี้การรับวัฒนธรรมอินเดีย และวิทยาการต่าง ๆ ทำให้รับภาษามาปรับใช้เป็นภาษาตนเอง ความต่างของวัฒนธรรมด้านภาษา คือ คนไทยนิยมใช้ภาษาไทยสื่อสารกัน ต่างจากอินเดียที่ใช้ภาษามากมายในการสื่อสาร
                     วัฒนธรรมด้านความเชื่อ ประเทศอินเดียเป็นต้นกำเนิดของศาสนาสำคัญหลายศาสนา โดยชาวอินเดียส่วนใหญ่นับถือศาสนาพราหมณ์ฮินดู รองลงมาเป็นศาสนาอิสลาม และศาสนาอื่น และเชื่อเรื่องระบบวรรณะของศาสนาพราหมณ์ฮินดู
                     วัฒนธรรมด้านอาหาร เครื่องเทศเป็นส่วนประกอบหลักของอาหารอินเดีย ซึ่งเหมือนกับไทยตรงที่ทานข้าวร่วมกับอาหารอื่น และนิยมทานโรตี ไม่ทานเนื้อหมู เครื่องเทศที่เป็นส่วนประกอบหลักนั้นจะเป็นเครื่องเทศแห้งต่างจากเครื่องเทศของไทยที่ใช้เครื่องเทศสด และภาคใต้ของอินเดียใช้กะทิเป็นส่วนประกอบของอาหารและมีรสจัดเหมือนอาหารไทย แต่ต่างจากไทยที่อาหารอินเดียใส่ขมิ้น หรือผงกะหรี่ หรือหญ้าฝรั่น แต่อาหารไทยไม่นิยมใส่ส่วนผสมเหล่านี้



วัฒนธรรมซาอุดีอาระเบีย
                     วัฒนธรรมด้านการแต่งกาย ชาวซาอุดีอาระเบียแต่งกายด้วยผ้าที่หลวมเพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก และ ปกปิดมิดชิด ต่างกับชุดแต่งกายไทยจะไม่ปกปิดมิดชิดทั่วทั้งตัว นอกจากนี้คนไทยส่วนใหญ่ไม่ได้นับถือศาสนาอิสลามจึงไม่นิยมคลุมผ้าที่หน้า




                     วัฒนธรรมด้านภาษา ภาษาราชการ คือภาษาอาหรับ และนิยมใช้ภาษาอังกฤษในการติดต่อสื่อสาร ภาษาอาหรับจะอ่านจากขวาไปซ้าย แต่ถ้าเป็นตัวเลขจะอ่านจากซ้ายไปขวา ถ้าตัวเลขเป็นกลุ่มจะอ่านจากขวาไปซ้ายเหมือนตัวหนังสือ ซึ่งต่างกับไทยที่ชาวไทยนิยมใช้ภาษาไทยในการติดต่อสื่อสาร และตัวอักษรไทยกับตัวเลขไทยอ่านจากซ้ายไปขวาเหมือนกัน
                     วัฒนธรรมด้านความเชื่อ ชาวซาอุดีอาระเบียนับถือศาสนาอิสลาม โดยแบ่งเป็นนิกายซุนนี และ นิกายชีอะฮ์ จึงมีความเชื่อไปในแนวทางเดียวกัน เนื่องจากไทยและซาอุดีอาระเบียนับถือศาสนาต่างกันเลยมีวัฒนธรรมความเชื่อต่างกัน แต่ก็มีวัฒนธรรมที่คล้ายกัน เช่น การบริจาคทาน
                     วัฒนธรรมด้านอาหาร ชาวซาอุดีอาระเบียทานอาหารมุสลิมตามหลักศาสนาอิสลามได้แก่ ขนมปัง ข้าว เนื้อสัตว์นานาชนิด ยกเว้นเนื้อหมู เลือดสัตว์ อาหารจากพืชมีพิษ และอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ โดยวัฒนธรรมซาอุดีอาระเบียมีข้อห้ามในเรื่องอาหารมาก ต่างจากไทยที่ไม่มีข้อห้ามมากนัก แต่คล้ายกัน เช่น การนิยมบริโภคข้าว การปรุงแต่งอาหารด้วยเครื่องเทศ




2. วัฒนธรรมนำสู่ความเข้าใจอันดีระหว่างกัน
          โดยมีปัจจัยในการสร้างความเข้าใจอันดีต่อกัน ได้แก่
                   – วัฒนธรรมที่เกี่ยวกับภาษา เป็นวัฒนธรรมที่ช่วยสื่อสารให้คนต่างสังคมเกิดความร่วมมือและการช่วยเหลือระหว่างกัน
                   – วัฒนธรรมที่เกี่ยวกับความเชื่อ ต่างมุ่งมั่นปฏิบัติในสิ่งที่เชื่อถือเหมือนกันทำให้ปฏิบัติในแนวทางเดียวกัน และไม่เกิดความขัดแย้ง
                   – วัฒนธรรมที่เกี่ยวกับขนบธรรมเนียมประเพณี ความเชื่อและปฏิบัติตามขนบธรรมเนียมประเพณีที่คล้ายกัน ทำให้ไม่เกิดความขัดแย้ง และการเรียนรู้วัฒนธรรมในการทักทายของแต่ละชาติยังเป็นการผูกมิตรไมตรีเมื่อพบกัน




แหล่งที่มาของเนื้อหา : สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช www.wpp.co.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เทคนิคการสอนครูเเบงค์

https://vt.tiktok.com/ZS8nJWJkx/