วันอาทิตย์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

ม 2 กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับตนเองและครอบครัว

กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับตนเองและครอบครัว
          ความหมายของผู้เยาว์ คือ บุคคลที่มีอายุไม่ถึง20 ปีบริบูรณ์
          ความสามารถของผู้เยาว์ ในกฎหมายกำหนดไว้ ดังนี้
                    การสมรส ต้องมีอายุครบ 17 ปีบริบูรณ์ หรือศาลอนุญาตให้สมรสได้ การสมรสจะต้องจดทะเบียนตามกฎหมายแล้วเท่านั้น
                    การทำนิติกรรม ต้องได้รับความยินยอมจากผู้แทนโดยชอบธรรม จึงจะสมบูรณ์ตามกฎหมาย
                    การทำการใด ๆ กฎหมายจำกัดความสามารถของผู้เยาว์ไว้ ทำให้เกิดความไม่สะดวกและเสียเวลาในการไปขออนุญาตผู้แทน จึงกำหนดข้อยกเว้น 3 ประเภท ดังนี้
                              – นิติกรรมที่ทำให้ผู้เยาว์ได้มาซึ่งสิทธิอันใดอันหนึ่งหรือเพื่อหลุดพ้นจากหน้าที่อันใดอันหนึ่ง
                              – นิติกรรมที่ผู้เยาว์ต้องทำเองเฉพาะตัว
                              – นิติกรรมที่จำเป็นเพื่อการดำรงชีพของผู้เยาว์
                    การทำพินัยกรรม ต้องมีอายุครบ 15 ปีบริบูรณ์
                    การประกอบธุรกิจการค้าและทำสัญญาเป็นลูกจ้าง ผู้เยาว์สามารถทำธุรกิจได้ โดยธุรกิจนั้นอาจมาจากกิจการที่เป็นมรดกของครอบครัวตกทอดมา

          กฎหมายเกี่ยวกับบัตรประจำตัวประชาชน เพื่อประโยชน์ของผู้ถือบัตรและทางราชการ
          พระราชบัญญัติบัตรประจำตัว กำหนดหลักเกณฑ์การขอมีบัตรประจำตัวประชาชนไว้ดังนี้
                    – บุคคลผู้มีสัญชาติไทยซึ่งมีอายุตั้งแต่เจ็ดปีบริบูรณ์ และมีชื่อในทะเบียนบ้าน
                    – บุคคลต่างด้าวที่ได้สัญชาติไทยหรือได้กลับคืนสัญชาติไทย
                    – บุคคลที่ได้เพิ่มชื่อในทะเบียนบ้าน
                    – บุคคลที่พ้นสภาพจากการได้รับการยกเว้น




          กฎหมายเกี่ยวกับครอบครัว
                    การหมั้น ในทางกฎหมาย คือ การที่ชายหญิงสัญญาว่าจะทำการสมรสและอยู่กินด้วยกันฉันสามีภริยา จะต้องมีของหมั้นและสินสอด การหมั้นมีเงื่อนไข 2 ประการ ดังนี้
                              – อายุของคู่หมั้น จะต้องมีอายุ 17 ปีบริบูรณ์
                              – ความยินยอมของบิดามารดาหรือผู้ปกครอง ถ้าอายุไม่ครบ 20 ปีบริบูรณ์หรือผู้เยาว์จะไม่สามารถทำการหมั้นด้วยตนเองได้ ต้องได้รับความยินยอมจากบิดามารดาหรือผู้ปกครองก่อน
                              การหมั้นจะมีความสมบูรณ์ จะต้องมีสิ่งประกอบ 2 ประการ ได้แก่
                                        – ของหมั้น
                                        – สินสอด
                    การสมรส
                              หลักเกณฑ์การสมรส มี 3 ประการ ได้แก่
                                        การสมรสมีหลักเกณฑ์ในการปฏิบัติ ดังนี้
                                                  – คู่สมรสต้องเป็นชายและหญิง
                                                  – ต้องกระทำโดยสมัครใจ
                                                  – อยู่กินฉันสามีภริยา
                                                  – ต้องมีคู่สมรสเพียงคนเดียว
                              เงื่อนไขการสมรส มี 2 ส่วน ได้แก่
                                        เงื่อนไขการสมรส มี 3 ประการ ได้แก่
                                                  – ชายและหญิงต้องมีอายุ 17 ปีบริบูรณ์
                                                  – ชายและหญิงแสดงความยินยอมเป็นสามีภริยากันต่อหน้านายทะเบียนและมีการจดทะเบียนสมรส




                              เงื่อนไขที่เป็นข้อห้าม มี 5 ประการ ได้แก่
                                        – ชายหรือหญิงที่เป็นบุคคลวิกลจริตหรือศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถ
                                        – ญาติสืบสายโลหิตจะสมรสกันไม่ได้
                                        – ผู้รับบุตรบุญธรรมและบุตรบุญธรรมจะสมรสกันไม่ได้
                                        – สมรสในขณะที่ตนมีคู่สมรสอยู่แล้วไม่ได้
                                        – หญิงที่เคยสมรสมาแล้วแต่สามีตาย หรือการสมรสครั้งก่อนสิ้นสุดลงโดยสาเหตุอื่น
          ความสัมพันธ์ระหว่างสามีภริยา มีดังนี้
                    ความสัมพันธ์ด้านส่วนตัว สามีและภริยาต้องช่วยเหลือเลี้ยงดูกัน
                    ความสัมพันธ์ด้านทรัพย์สิน มี 2 ประเภท คือ
                              – ทรัพย์สินส่วนตัว คือ ทรัพย์สินที่เป็นกรรมสิทธิ์ของคู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโดยเฉพาะ คู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งไม่มีอำนาจมาเกี่ยวข้อง
                              – สินสมรส คือ ทรัพย์สินที่เป็นกรรมสิทธิ์ร่วมกันของคู่สมรสทั้งสองฝ่าย
          การรับรองบุตร
                    บุตร แบ่งเป็น 3 ประเภท ดังนี้
                              บุตรชอบด้วยกฎหมาย มี 2 ประเภท ได้แก่
                                        – บุตรในสมรส คือ เด็กที่เกิดจากบิดามารดาที่ได้จดทะเบียนสมรสกันตามกฎหมาย
                                        – บุตรนอกสมรส คือ เด็กที่เกิดจากบิดามารดาที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน
                              บุตรนอกกฎหมาย คือ บุตรที่เกิดจากบิดามารดาไม่ได้จดทะเบียนสมรสกันและไม่ได้ดำเนินการให้เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของบิดา
                              บุตรบุญธรรม คือ บุตรของคนอื่นแต่เข้ามาเป็นบุตรด้วยการจดทะเบียน สำหรับหลักการรับบุตรบุญธรรมมีดังนี้
                                         – ผู้รับบุตรบุญธรรมต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 25 ปี และต้องมีอายุมากกว่าบุตรบุญธรรมอย่างน้อย 15 ปี
                                         – ผู้เป็นบุตรบุญธรรมที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 15 ปี จะต้องให้ความยินยอมด้วย
                                         – บุตรบุญธรรมที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะต้องได้รับคำยินยอมจากบิดามารดาผู้นั้น
                                         – ผู้รับบุตรบุญธรรมหรือผู้ที่จะเป็นบุตรบุญธรรม ถ้ามีคู่สมรสต้องได้รับความยินยอมจากคู่สมรสก่อน

                                         – การรับบุตรบุญธรรมมีผลเฉพาะตัวผู้จดทะเบียนเป็นผู้รับบุตรบุญธรรมเท่านั้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เทคนิคการสอนครูเเบงค์

https://vt.tiktok.com/ZS8nJWJkx/