วันศุกร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2560

การออมการลงทุน ม 2

เงินทุนถือเป็นปัจจัยที่ทำให้ประเทศเกิดการพัฒนาและเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งมาจากเงินออมภายในประเทศและเงินทุนจากต่างประเทศ

1. การออม
          ความหมายและความสำคัญของการออม การออม เป็นการเก็บเงินส่วนที่เหลือจากการใช้จ่าย เพื่อใช้ในยามจำเป็น ซึ่งในการพัฒนาเศรษฐกิจ เงินออมจะเป็นแหล่งที่มาของเงินลงทุน หากเงินออมเพียงพอต่อการลงทุนในประเทศ จะทำให้ระบบเศรษฐกิจมีเสถียรภาพ
          ประเภทของการออม การออมจะแบ่งเป็นการออมภาครัฐและการออมภาคเอกชน ซึ่งระบบการออมมี 2 ประเภท ได้แก่
          การออมทางตรง ผู้ออมจะทำการออมผ่านเครื่องมือการออม ที่เสนอโดยผู้ที่มีความต้องการใช้เงินทุน โดยไม่ผ่านตัวกลางทางการเงิน ซึ่งจะอยู่ในตลาดการเงิน
                    ตลาดการเงิน แบ่งเป็น 2 ตลาด ได้แก่
                              – ตลาดเงิน เป็นแหล่งระดมเงินทุนระยะสั้น
                              – ตลาดทุน เป็นแหล่งระดมเงินทุนระยะยาว (อายุ 1 ปีขึ้นไป)
          การออมทางอ้อม ผู้ออมจะทำการออมผ่านเครื่องมือการออม ที่เสนอโดยตัวกลางทางการเงินในตลาดเงิน ซึ่งกลุ่มประเภทของการออมทางอ้อมมีดังนี้
                    – การออมแบบไม่ผูกพัน จะมีระยะเวลาสัญญาระหว่างผู้ออมและตัวกลางทางการเงินไม่ยาวนาน ผู้ออมจะเรียกคืนเงินออมเมื่อไหร่ก็ได้ ซึ่งเป็นการฝากเงินกับธนาคารหรือสถาบันทางการเงิน
                    – การออมแบบผูกพัน จะมีระยะเวลาสัญญาระหว่างผู้ออมและตัวกลางทางการเงินยาวนาน ถ้ายังไม่ครบสัญญาผู้ออมจะเรียกคืนเงินออมไม่ได้ หรือเสียค่าปรับในการยกเลิกสัญญา ซึ่งการออมประเภทนี้แบ่งได้ 2 รูปแบบ ได้แก่ การออมภาคบังคับ และ การออมภาคสมัครใจ
          ปัจจัยที่กำหนดการออม มีดังนี้
                    – การวางแผนการใช้เงินในอนาคต โดยกำหนดระยะเวลาการฝากให้ตรงกับความต้องการใช้เงินในอนาคต
                    – ความมั่นคงของสถาบันการเงิน ควรเลือกสถาบันการเงินที่มีความมั่นคง เพื่อความปลอดภัย
                    – อัตราดอกเบี้ย ควรเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยเงินฝากแต่ละสถาบันการเงิน
                    – ระยะเวลาการฝากเงิน ต้องไม่มากเกินกว่ากำหนดการใช้เงินในอนาคต
                    – การคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยในอนาคต หากปรับตัวเพิ่มควรฝากระยะสั้นเพื่อรออัตราดอกเบี้ยใหม่ หากปรับตัวลดลง ควรฝากระยะยาวเพื่อใช้อัตราดอกเบี้ยเก่า
                    – เทคโนโลยี การนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานในสถาบันการเงิน จะทำให้บริการทางการเงินที่รวดเร็วและปลอดภัย




2. การลงทุน
          ความหมายและความสำคัญของการลงทุน การลงทุนทางการเงิน คือ การนำเงินไปซื้อหลักทรัพย์ทางการเงิน โดยได้เงินปันผลหรือดอกเบี้ย ซึ่งเป็นการใช้จ่ายเพื่อทำให้เกิดการผลิตสินค้าและบริการในอนาคต การลงทุนดังกล่าวแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่
                     – งานก่อสร้างที่เกิดขึ้นใหม่
                     – เครื่องจักรและอุปกรณ์การผลิตที่ผลิตขึ้นใหม่ รวมทั้งเครื่องมือและอุปกรณ์สำนักงาน
                     – สินค้าคงคลัง
          ประเภทของการลงทุน
                     – การลงทุนทางตรง เป็นการลงทุนที่ผู้ลงทุนเป็นเจ้าของและมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการธุรกิจ ซึ่งเป็นการลงทุนระยะยาว
                     – การลงทุนทางอ้อม เป็นการลงทุนที่ผู้ลงทุนไม่มีส่วนในการบริหารจัดการธุรกิจ ผู้ลงทุนจะลงทุนในตลาดการเงิน




          รูปแบบของการลงทุน
                    การลงทุนทางอ้อมที่นิยมกัน แบ่งเป็น 3 ประเภท ดังนี้
                              – การฝากธนาคาร เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงเรื่องผลตอบแทนของอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวลดลง
                              – การลงทุนพันธบัตรและหุ้นกู้ หรือ ตราสารหนี้ จะได้ดอกเบี้ยเป็นผลตอบแทน ตราสารหนี้ระยะยาวจะมีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าระยะสั้นและได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝากธนาคาร เพราะมีความเสี่ยงกว่าการฝากเงิน




                              – การลงทุนหุ้นสามัญหรือตราสารทุน ได้เงินปันผลและส่วนต่างจากราคาขายกับราคาที่เราลงทุนซื้อเป็นผลตอบแทน ซึ่งมีความเสี่ยงกว่าตราสารหนี้ ได้แก่
                                        – การเปลี่ยนแปลงของรายได้
                                        – อัตราดอกเบี้ย นักลงทุนจะลงทุนมากในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยต่ำ
                                        – เทคโนโลยี ซึ่งการมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยจะได้เปรียบคู่แข่ง
                                        – นโยบายของรัฐและเสถียรภาพทางการเมือง การปกครองระบอบประชาธิปไตยจะมีการลงทุนมากกว่าการปกครองระบอบเผด็จการ
                                        – ปัจจัยอื่น เช่น ภัยธรรมชาติ จะมีผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจในประเทศ




3. ปัญหาของการออมและการลงทุนในสังคมไทย
          ปัญหาของการออม ได้แก่
                    – รายได้ต่ำ
                    – ผลตอบแทนต่ำ
                    – ความไม่รู้
                    – เป้าหมายของการออม ส่วนใหญ่เป็นการออมเพื่อการศึกษา การท่องเที่ยว ใช้จ่ายในยามฉุกเฉิน หรือออมไว้เพื่อซื้อของมากกว่าเก็บออม
                    สภาวการณ์การออมภาคครัวเรือนของไทย เมื่อ พ.ศ. 2551 พบว่า อัตราการขยายตัวของค่าใช้จ่ายต่อเดือนของครัวเรือนสูงกว่าอัตราการขยายตัวของรายได้เฉลี่ยต่อเดือนของครัวเรือน ทำให้การออมภาคครัวเรือนลดลง
                    สาเหตุของการลดลงของเงินออมภาคครัวเรือนของไทย ใน พ.ศ. 2551 มี 3 ประการ ดังนี้
                              – การขาดความเชื่อมั่นต่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ
                              – ภาวะเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น
                              – นโยบายของภาครัฐ มีการกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชน ทำให้การใช้จ่ายของประชาชนสูงขึ้น
          ปัญหาของการลงทุน ได้แก่
                    – ผลิตภาพการผลิต ภาคการเกษตรใช้ปัจจัยการผลิตที่ขาดประสิทธิภาพ และการผลิตมีต้นทุนสูงแต่ผลผลิตต่ำ
                    – การพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ ทำให้เสียค่าใช้จ่ายมาก
                    – โครงสร้างพื้นฐานด้านขนส่ง และ โลจิสติกส์ มีต้นทุนที่สูง และใช้พลังงานเชิงพาณิชย์สูง และกระจายไปสู่พื้นที่ชนบทไม่เพียงพอและไม่ทั่วถึง
                    – การให้สิทธิพิเศษทางการค้า นักลงทุนที่ลงทุนในไทยผ่านพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุนและกติกาการค้าโลก ทำให้สินค้าไทยถูกตีตลาดจากสินค้านำเข้าจากต่างประเทศที่ราคาถูกกว่า




4. การบริหารจัดการเงินออมและการลงทุนภาคครัวเรือน
          วิธีการบริหารจัดการเงินออม ได้แก่
                    – การประเมินสถานการณ์ของตนเอง เพื่อให้ทราบสถานการณ์ของตนเอง
                    – การกำหนดเป้าหมายทางการเงิน ต้องกำหนดระยะเวลาที่แน่นอน
                    – การจัดทำแผนการเงิน จะช่วยให้มีเงินสำรอง
                    – การปฏิบัติตามแผน ทำให้ประหยัดเงินและมีเงินออม
                    – การติดตามวัดผล เพื่อปรับแผนให้เหมาะสมมากขึ้น
                    – การปรับแผน ต้องปรับให้ทันกับสภาพแวดล้อมและความต้องการของตนเอง
          วิธีการบริหารจัดการการลงทุน ได้แก่
                    – การรวบรวมข้อมูลทางการเงิน จะทำให้เราเห็นสถานภาพทางการเงินของตนเอง
                    – การกำหนดเป้าหมายและวัตถุประสงค์ โดยมีลักษณะสำคัญ คือ ความเป็นไปได้ที่จะสำเร็จ สามารถวัดเป็นจำนวนเงินได้ชัดเจน และมีกรอบเวลาที่แน่นอน นโยบายการลงทุน
                    – การวางแผนปฏิบัติการ การลงทุนมีความเสี่ยงก่อนลงทุนจึงต้องมีการวางแผนเพื่อลดความเสี่ยง
                    – การปฏิบัติตามแผนที่วางไว้

                    – การติดตามและทบทวนการลงทุน เพื่อรับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และรับมือกับสถานการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อการลงทุนได้ทัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เทคนิคการสอนครูเเบงค์

https://vt.tiktok.com/ZS8nJWJkx/