วันจันทร์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2556

ทำไมต้อง “สถาน” ?

“อัฟกานิสถาน ปากีสถาน คีร์กีซสถาน ทิจิกิสถาน คาซัคสถาน อุซเบกิสถาน เติร์กเมนิสถาน”
หลายท่านคงสงสัยมานานแล้วว่าทำไมประเทศเหล่านี้จึงต้องมีคำว่า “สถาน” ต่อท้ายชื่อของประเทศ แต่ การหาคำตอบไม่ใช่เรื่องง่ายนักเพราะประเทศเหล่านี้ส่วนใหญ่แล้วล้วนเป็นประเทศที่เกิดขึ้นมาใหม่ โดย 5 ประเทศหลังเป็นประเทศในภูมิภาคเอเชียกลางที่เป็นส่วนหนึ่งของอดีตสหภาพโซเวียต และเพิ่งสถาปนาความสัมพันธ์กับไทยเมื่อปี 2535 ดังนั้น เกร็ดความรู้ของประเทศเหล่านี้จึงไม่มีมากนัก

เนื่องจากการที่ เราคงจะได้ยินชื่อและมีการปฏิสัมพันธ์กับประเทศเหล่านี้เพิ่มมากขึ้น เพราะประเทศเอเชียกลางได้ชื่อว่าเป็นแหล่งพลังงานของโลกในอนาคต (คาซัคสถาน เติร์กเมนิสถาน อุซเบกิสถาน) ทั้งประเทศเหล่านี้ยังเป็นประเทศที่มีบทบาทในเวทีการต่างประเทศเพิ่มขึ้น อาทิ คาซัคสถานรับตำแหน่งประธาน OSCE เมื่อเดือนมกราคม 2553 และจะเป็นประธานการประชุมระดับรัฐมนตรีของ OIC ในปี 2554 ทาจิกิสถานเป็นประธานการประชุมระดับรัฐมนตรี OIC ในเดือนพฤษภาคม ศกนี้ ส่วนอุซเบกิสถานจะเป็นเจ้าภาพการประชุมสภาผู้ว่าการธนาคารพัฒนาเอเชียในเดือนพฤษภาคม ศกนี้ กลุ่มงานเอเชียกลางขอ ไขข้อข้องใจถึงที่มาของคำว่า “สถาน” ที่ต่อท้ายชื่อประเทศดังกล่าว ดังนี้

คำว่า “สถาน” ( -Stan) เป็น วิภัตติหรือคำเสริมท้าย ( Suffix) แปลว่า สถานที่ของ ( “Place of” ) ในภาษาเปอร์เชีย ซึ่งคล้ายคลึงกับภาษาพาสตุน ภาษาอินโดอารยัน และสันสกฤต ซึ่งล้วนแล้วแต่มีความหมายในทำนองเดียวกันคือใช้บ่งบอกว่าเป็น “สถานที่”

คำเสริมท้ายนี้ได้ปรากฏอยู่ในชื่อ หรือการเรียกสถานที่ โดยเฉพาะภูมิภาคเอเชียกลางและเอเชียใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ต้นกำเนิดของชาวอินโด เช่น คำว่า “golestan” ซึ่งแปลว่า สวนกุหลาบ (place of roses, rose garden) และต่อมาเมื่อกลุ่มคนที่ใช้ภาษาในตระกูลเปอร์เชียก่อตั้งประเทศของตนขึ้น ชื่อประเทศของ กลุ่มคนเหล่านั้นก็จะมีรากศัพท์ทางภาษาที่คล้ายคลึงกันโดยมีพื้นฐานมาจากภาษาในแถบเปอร์เซีย อาทิ

Afghanistan:
อัฟกานิสถาน แปลว่า ดินแดนของชาวอัฟกัน (Land of Afghans) โดยคำว่า Afghans มาจากชื่อของเผ่าภาษาสันสกฤตคือ “Aśvaka (अश्वक)” ซึ่งแปลว่า นักขี่ม้า และเมื่อรวมกับคำเสริมท้ายในภาษาเปอร์เชีย “สถาน (-stan)” ซึ่งได้กล่าวไปแล้วว่าแปลว่าสถานที่ ดังนั้น อัฟกานิสถาน จึงแปลได้ว่า “ดินแดนแห่งนักขี่ม้า”

Kazakhstan:
คาซัคสถาน แปลว่า ดินแดนของชาวคาซัก (Land of Kazakhs) โดยคำว่า Kazakh ไม่มีความหมายที่แน่นอนโดยสามา รถแปลได้หลายนัย เช่น อิสระภาพ ความกล้าหาญ กระด้างกระเดื่อง คนเตร็ดเตร่ ส่วนในภาษารัสเซียคำว่า kazak (казак) มีความหมายเหมือนคำว่า “Cossack” ในภาษาอังกฤษซึ่งแปลว่า นักผจญภัย หรือคนรักอิสระ ดังนั้นเมื่อรวมกับคำเสริมท้ายในภาษาเปอร์เซีย “สถาน” (-stan) จึงสามารถแปลชื่อประเทศ คาซัคสถานได้ว่า “ดินแดนแห่งผู้รักอิสระ”

Kyrgyzstan:
คีร์กีซสถาน เกิดจากการผสมคำสามคำคือ “kyrg” ซึ่งแปลว่า 40 “yz” ซึ่งแปลว่า เผ่า และ stan ซึ่งแปลว่า ดินแดน ดังนั้นจึงแปลได้ว่า “ดินแดนแห่ง 40 ชนเผ่า ( Land of forty tribes)” นอกจากนี้คำว่า “kyz” ยังสามารถแปลในอีกความหมายหนึ่งคือ เด็กผู้หญิง (girls) ดังนั้นจึงสามารถแปลความหมายได้อีกความหมายคือ “ดินแดนแห่ง 40 สาวน้อย (Land of forty girls)”

Tajikistan:
ทาจิกิสถาน (Tajikistan) หรือ ชื่อเดิม คือ โทจิกีสเทิน (Tojikiston) แปลว่า ดินแดนของชาวทาจิกส์ (Land of the Tajiks) โดย ประเทศทาจิกีสถานเป็นเพียงประเทศเดียวในสหภาพโซเวียตซึ่งพูดภาษาเปอร์เซียและประวัติศาสตร์ของชาติสามารถสืบย้อนไปถึงสมัยจักวรรคิเปอร์เซีย โดยรากศัพท์ของ “toj” ซึ่งมาจากภาษาเปอร์เซียมีความหมายว่า “มงกุฏ, เกียรติ (crown)” ต่อมาในสมัยของสหภาพโซเวียต “toj” ก็ได้แผลงเป็น “tojik” ดังนั้น “Tajikistan” จึงแปลได้ว่า “ดินแดนแห่งผู้คนมีเกียรติ (Place where people have crowns)” แต่ยังมีรากศัพท์ที่น่าจะเป็นไปได้อีกแนวทางหนึ่งคือในธิเบตมีคำว่า Tag Dzig ซึ่งออกเสียงว่า ทาจิส (Tajik) โดยเป็นคำที่ชาวธิเบตใช้เรียกชาวเปอร์เซีย แต่ในภาษาธิเบตคำดังกล่าวมีความหมายคือ เสือ-เสือดาว นี่จึงอาจเป็นเหตุผลที่ตำนานธิเบตส่วนใหญ่เกี่ยวกับเพื่อนบ้านชาวตะวันตกจะมีลักษณะเป็นเสือ หรือเสือดาว

Turkmenistan:
เติร์กเมนิสถาน มาจากส่วนประกอบของคำคือ Turkmen และคำเสริมท้ายคือ “สถาน (-stan)” ดังนั้น Turkmenistan จึงสามารถแปลได้ว่า “ดินแดนของชาวเติร์กเมนส์ ( Land of the Turkmen people)”

Uzbekistan:
อุซเบกิสถาน มาจากส่วนประกอบของคำ 3 คำคือ “uz” ซึ่งแปลว่า ตนเอง “bek” ซึ่งแปลว่า ผู้บังคับการ, หัวหน้า ในภาษาของชาว Sogdian ต้นตระกูลของชาวอิหร่าน และ “stan” ในภาษาเปอร์เซีย ดังนั้น Uzbekistan จึงมีความหมายว่า “ดินแดนแห่งผู้ปกครองตนเอง (Land of the Self Masters) ”

Pakistan:
ปากีสถาน มาจากคำสองส่วนคือ “Paki” ซึ่งแปลว่าบริสุทธิ์ ( the pure ) มีที่มาจากภาษาอูรดู และ “stan” ในภาษาเปอร์เซีย ดังนั้น ปากีสถาน (Pakistan) จึงมีความหมายว่า “ดินแดนของผู้บริสุทธิ์” ดังนั้นคำว่า “สถาน” ในชื่อประเทศของหลายๆประเทศ จึงมีความหมายในเชิงบ่งบอกความเป็น สถานที่ เหมือนๆกัน จึงสามารถชี้ให้เห็นถึงความเป็นมาวัฒนธรรมของชาติเหล่านั้นว่า เคยมีประวัติศาสตร์วัฒนธรรม ประเพณีที่เกี่ยวเนื่องกันมาก่อน แม้ปัจจุบันชาติบางชาติจะมีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นเป็นของตนเองก็ตาม

อ้างถึง: ข้อมูลจาก Wikipedia

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เทคนิคการสอนครูเเบงค์

https://vt.tiktok.com/ZS8nJWJkx/